จุดแรกที่ควรไปหลังจากถึงสนามบินนาฮะก็ คือ มรดกโลกปราสาทชุริ(Shuri castle) โดยรถรางสายยุย เรล(Yui rail)
หลังจากที่ใช้เวลาศึกษาเที่ยวชมพอสมควรแล้ว ก็ลองไปลิ้มลองโซบะโอกินาว่าของขึ้นชื่อในเมืองชุริกันดู
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถรางสายยุย เรลอีกครั้งเพื่อวิ่งตรงไปยังสถานีโอะโมะโระมะจิ(Omoromachi Station) เพื่อไปร้านปลอดภาษี
และต่อไปยังสถานีมาคิชิ(Makishi station) เพื่อไปช็อปปิ้งที่ถนนโคคุไซ(Kokusai Dori)
จากนั้นไปแวะพักที่เมืองสึโบะยะ(Tsuboya town) แล้วไปเดินผ่อนคลายที่สวนแบบจีนก็เป็นการจบทริปสำหรับวันนี้ี้

ปราสาทชูริโจเป็นตัวแทนของจุดชมวิวในเมืองโอกินาว่า และได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2000 ความรุ่งโรจน์ในสมัยอาณาจักรริวกิวยังคงหลงเหลืออยู่ในปราสาทแห่งนี้ แม้จะมีพื้นที่ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่คุณสามารถชมพื้นที่รอบๆ ปราสาททองคำในบริเวณนี้ได้ฟรี และเนื่องจากอาคารส่วนใหญ่ถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีการบูรณะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายยุค 1980

Shurijo Castle Park เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ*ภาษาอังกฤษ

การแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองจากยุคสมัยริวกิวจะทำให้กรอบความคิดของคุณเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวสามารถลองสวมชุดพื้นเมือง ถ่ายภาพ และเข้าร่วมทัวร์สวนปราสาทชูริโจ คุณผู้หญิงจะได้รับการแต่งหน้าทำผมแบบจัดเต็มจากมืออาชีพ โดยการแต่งองค์ทรงเครื่องนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง การเดินในชุดคอสตูมท่ามกลางกลุ่มนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ อาจจะทำให้เคอะเขินบ้างในช่วงแรก แต่หลังจากผ่านไปสักครู่ คุณอาจจะรู้สึกราวกับตัวเองเป็นหนึ่งในตระกูลราชวงศ์จากอาณาจักรเก่าแก่แห่งริวกิวเลยทีเดียว การได้เดินทอดน่องในพื้นที่แห่งนี้จะทำให้คุณสามารถจินตนาการได้ถึงชีวิตของผู้คนในยุคอดีต
“ประสบการณ์การแต่งชุดริวกิวกับ Mode Mariage” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมครบรสที่จะทำให้คุณได้แต่งชุดสุดหรู ทำผม และแต่งหน้าโดยผู้จัดงานแต่งสไตล์ราชวัง พร้อมเดินทัวร์นำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ สำหรับที่ซากปราสาทซาคิมิ (ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกด้วยเช่นกัน) จะมีแผนการท่องเที่ยว ซึ่งรวมการถ่ายภาพในชุดริวกิว เรามาลองเป็นพระราชาหรือราชินีกันสักวันไหมคะ?

Mode Mariage เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ*ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
RyusoIchiban เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ*ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

เป็นร้านโอกินาว่าโซบะแบบยืนทานที่อยู่ในชุมชนที่เงียบสงบ อยู่ใกล้กับสถานีชุริ(Shuri station) ของรถรางยุย เรล
เป็นโซบะที่มีน้ำซุปใสรสชาติอ่อนๆแต่ล้ำลึกด้วยกรรมวิธีชั้นเยี่ยม และจุดเด่นของร้านนี้คือการทำเส้นด้วยมือที่มีลักษณะโดดเด่น
เป็นความอร่อยที่ได้จากเส้นผสมกับน้ำซุปที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
ร้านนี้มีความนิยมขนาดที่ว่าช่วงบ่ายๆก็ขายหมดแล้ว จึงแนะนำว่าขอให้ไปเร็วหน่อย

โซบะชุริ(Shuri soba) เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ*ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

Tแกลเลอเรีย โอกินาว่าที่สามารถไปถึงสะดวกโดยวิ่งตรงไปจากสถานีโอะโมะโระมะจิ(Omoromachi station) ของรถรางสายยุย เรล(Yui rail) สามารถซื้อสิ้นค้าแบรนด์ที่ท่านชืนชอบได้ในราคาถูกกว่าราคาที่ขายในประเทศ ด้วยร้านค้าปลอดภาษีแบบวางขายตามถนนเพียงหนึ่งเดียวในประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 130 แบรนด์ด้วยกัน และนอกจากจะมีคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ดังระดับท็อป หรือ สินค้าที่ขายเฉพาะช่วงแล้ว ยังมีมุมเครื่องสำอางหรือน้ำหอม รวมถึงงานศิลปหัตถกรรมหรือมุมของฝากจากโอกินาว่าด้วย

Tแกลเลอเรีย โอกินาว่า (T Galleria Okinawa) เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ*ภาษาอังกฤษ

ถนนโคคุไซที่เรียกกันว่า「มหัศจรรย์ 1 ไมล์」นั้น เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของการท่องเที่ยวโอกินาว่าที่มีระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตรที่ทำการฟื้นฟูให้ดีขึ้นหลังจากสงคราม ซึ่งจะทำให้เห็นถึงความคึกคักในทุกๆวันจากร้านค้าที่เรียงรายอยู่ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของฝาก ร้านอาหาร หรือแม้แต่ร้านเหล้าต่างๆ ทุกบ่ายวันอาทิตย์ถนนแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังมีอีเว้นท์หรือระบำเอสะจัดขึ้นอยู่บางครั้ง ซึ่งก็ทำให้สามารถรู้สึกถึงงานเทศกาลได้อีกด้วย

เป็นคาเฟ่แบบโบราณซึ่งอยู่สุดถนนสึโบะยะยะจิมุน(Tsuboya-yachimun Dori)
ภายในร้านที่เคยใช้เป็นสถานีวิทยุเมื่อปีค.ศ.1952 ถูกปรับปรุงให้มีความรู้สึกแปลกใหม่แต่ยังคงกลิ่นอายเดิมๆอยู่ ซึ่งสามารถลิ้มลองขนมกิวริวทำมือและชาบุคุบุคุ(Buku buku Tea) แบบดั้งเดิมได้ เป็นชาที่มีฟองนุ่มๆอยู่บนข้าวและมีรสชาติล้ำลึก และยังรับประทานพร้อมกับกับข้าวแบบดั้งเดิมของชาวโอกินาว่า อย่าง「โปโป」ที่มีลักษณะแผ่นบางคล้ายแผ่นเครปห่ออันดันซู(น้ำมันมิโสะ)ไว้ได้อีกด้วย

สวนแบบจีนที่สร้างขึ้นจากความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างเมืองนาฮะกับเมืองฝูโจวมณฑลฝูเจี้ยนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งเป็นเมืองนาฮะ และครบรอบ 10 ปีในการลงนามสนธิสัญญาความเป็นเมืองพี่เมืองน้องเมื่อปีค.ศ.1992
โดยมีการใช้รูปแบบในการก่อสร้างแบบจีนที่มีผลกระทบต่อวัฒนธรรมโอกินาว่านับแต่ยุคแลกเปลี่ยนในสมัยริวกิวเป็นต้นมา โดยมีการสร้างวิวรอบๆ เช่น บ่อน้ำ เนินหินจำลอง น้ำตก ต้นไม้และการแกะสลัก ฯลฯ ที่ทำให้จิตใจของผู้ชมผ่อนคลายมากขึ้นี

ทางที่ปูด้วยหินของหมู่บ้านคานางิ(Kanagi town) ที่ยังหลงเหลืออยู่และมีอายุประมาณ 500 ปี

สมัยพระเจ้าโช ชินของอาณาจักรริวกิว ถูกสร้างขึ้นเป็นทางแห่งไข่มุกเพื่อเป็นทางเส้นหลักจากปราสาทชุริ(Shuri castle) ไปยังภาคใต้ของเกาะ เริ่มก่อสร้างเมื่อปีค.ศ.1522 ผ่านเมืองคานางิ(Kanagi town) และเมืองชิคินะ(Shikina town) ยาวไปจนถึงท่าเรือชายฝั่งทางใต้ของนาฮะ ภายหลังจากสงครามโอกินาว่าได้สิ้นสุดลง สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ได้ถูกทำลายไป ส่วนที่เหลือจากไฟสงครามจนถึงปัจจุบันระยะทาง 250 เมตรนี้ คือทางที่ปูด้วยหินของหมู่บ้านคานางิ และยังเป็น 1 ในร้อยของถนนในประเทศญี่ปุ่นที่ถูกเลือกให้เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของโอกินาว่า ส่วนหินที่พูดถึงเป็นหินปูนริวกิว นอกจากนี้ตามริมทางก็ยังมีกำแพงกินที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ระหว่างทางลาดที่ปูด้วยหินนั้นจะมีศาลา(Azumaya) ของชาวโอกินาว่าไว้ให้พักผ่อนด้วย หากเหนื่อยเพราะเดินทางทางก็สามารถนั่งพักสักครู่ได้ และสิ่งที่มองเห็นได้จากตรงนี้คือถนนหนทางที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาในอดีต

Okinawa Local Cuisine Angama*ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
Okinawan Music Kalahaai*ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

หลังจากผ่านไปประมาณ 500 ปี ถนนปูหินคินโจในชูริก็ยังคงอยู่
ถนนมาดามะถูกสร้างขึ้นในยุคกษัตริย์โชชินแห่งริวกิว เพื่อเป็นถนนสายหลักเชื่อมจากชูริไปยังตอนใต้ของโอกินาว่า การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 1522 โดยถนนยาวไปจนถึงคินโจโช ชิคินะ และชายฝั่งทางตอนใต้ของท่าเรือนาฮะ ถนนส่วนใหญ่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หากแต่ยังมีถนนความยาว 250 เมตรเหลือรอดหลังจากสงครามและได้รับการขนานนามว่าถนนปูหินคินโจ ถนนเส้นนี้ได้รับการสถาปนาเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดโอกินาว่าและได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 สุดยอดถนนของญี่ปุ่น ถนนแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินปูนริวกิว และยังคงมีกำแพงหลงเหลืออยู่ริมถนน ถนนปูหินแห่งนี้มีลักษณะลาดเอียงและมีบ้านพักหลังคามุงกระเบื้องแดงอยู่บนถนน โดยคุณสามารถพักที่นี่ได้เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า และคุณอาจจะสัมผัสได้ถึงชีวิตในยุคอาณาจักรริวกิวเมื่อได้ชมวิวจากมุมนี้